บูรณาการทุกส่วนงานออกแบบก่อสร้างด้วยระบบ BIM
Integrate Project Delivery (IPD) with building information system (BIM)
ใช้โปรแกรม : Autodesk revit
การออกแบบโดยใช้ซอฟท์แวร์ที่เป็นระบบ BIM มีหลายตัว คือ Revit, ArchiCAD ฯลฯ ซึ่งมีข้อดี คือ สามารถสร้างแบบทุกด้านพร้อมกันได้ และ เมื่อมีการแก้ไขที่ด้านใดด้านหนึ่ง จะแก้ไขแบบด้านอื่นไปด้วยพร้อมกัน ทำให้ขจัดช้อผิดพลาดในการออกแบบได้เป็นอย่างดี
วัตถุประสงค์
เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้ด้านวิธีการสำหรับสร้างแบบจำลองอาคาร 3D อย่างรวดเร็ว ด้วยระบบ BIM บนคอมพิวเตอร์ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม
เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้ด้านวิธีการสำหรับสร้างแบบก่อสร้าง 2D โดยอัตโนมัติ จากแบบจำลองอาคาร 3D ด้วยระบบ BIM ไปยัง AutoCAD ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว กว่าระบบเดิมหลายเท่า ทั้ง แปลน รูปด้าน รูปตัด แบบขยาย บนคอมพิวเตอร์ได้อย่างถูกต้อง และ ครบถ้วนสมบูรณ์
เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้ด้านวิธีการสำหรับคำนวนข้อมูลปริมาณวัสดุโดยอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว จากแบบจำลองอาคาร 3D ด้วยระบบ BIM บนคอมพิวเตอร์ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม
เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้ด้านวิธีการสำหรับสร้าง Timeline เพื่อควบคุมงานก่อสร้าง พร้อมทั้งจำลองความคืบหน้าเป็นแบบจำลองอาคาร 3D ด้วยระบบ BIM บนคอมพิวเตอร์ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม
สถาปนิก วิศวกร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายออกแบบ ฝ่ายก่อสร้าง หรือผู้เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้าง ในส่วนงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่วนราชการ สามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาภารกิจงานต่างๆ ที่รับผิดชอบให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และ สอดคล้องกับระบบ BIM ซึ่งจะใช้เป็นมาตราฐาน ทั้งในภูมิภาคอาเซียน และ ในระดับมาตราฐานอุตสาหกรรมก่อสร้างระดับโลกต่อไป
เพื่อลดระยะเวลาการทำงาน ซึ่งจะส่งผลต่อค่าใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดสร้างแบบจำลองอาคาร 3D การผลิตแบบก่อสร้าง การถอดปริมาณวัสดุ การควบคุมวางแผนดำเนินงานก่อสร้าง
คุณสมบัติหลักสูตร
งานออกแบบก่อสร้างที่ผ่านมา จะเกิดความผิดพลาดของ งานแบบ และ งานถอดปริมาณวัสดุ ในระดับที่สูงมาก ทั้งนี้ เนื่องจากแบบแต่ละด้าน เขียนคนละครั้ง ขาดความเชื่อมโยงกัน ความผิดพลาดของแบบส่งผลต่อระยะเวลา และ ต้นทุนในการก่อสร้างเป็นอย่างมาก อุตสาหกรรมก่อสร้างในระดับสากลได้พยายามหาทางแก้ไข จนได้พัฒนามาเป็นระบบ BIM ซึ่งใช้กันในปัจจุบัน และ ได้กลายเป็นมาตราฐานสากล ดังเช่น
ในสหรัฐอเมริกา มีการใช้ BIM ถึง 70% ของงานก่อสร้างทั้งหมด
ในสิงคโปร์ ได้มีกฎหมายให้การยื่นแบบอนุมัติ ต้องส่งเป็นข้อมูลแบบ BIM
ในเวียดนาม โครงการขนาดใหญ่ทั้งหมด มีข้อกำหนดให้ใช้ BIM ทั้งส่วนออกแบบ และ ควบคุมงาน
ปัจจัยสำคัญที่สุดที่วงการก่อสร้างเปลี่ยนมาใช้ BIM คือ การลด และ การควบคุม ต้นทุนก่อสร้าง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ทราบว่า ค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นจากส่วนใด หรือ ขั้นตอนใด ของการก่อสร้างได้อย่างชัดเจน
เหมาะสำหรับ
สถาปนิก วิศวกร เจ้าหน้าที่ฝ่ายออกแบบ และ ควบคุมงาน
ฝ่ายก่อสร้าง ผู้เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้าง ในส่วนงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่วนราชการ และ ฝ่ายจัดทำงบประมาณ
รายละเอียด/เอกสารเพิ่มเติม
อาจารย์ผู้สอน : คุณสุรพล เลิศดำรงชัย
ระยะเวลาอบรม : 5 วัน
ค่าลงทะเบียน : 16,000 บาท
สิ่งที่ต้องนำมา : คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค
เอกสารดาวน์โหลด
หัวข้ออบรมแต่ละวัน
วันที่ |
รายละเอียด |
1 |
การใช้ BIM ในการนำเสนอโครงการ
ความเป็นมาของเทคโนโลยี Building Information Modeling (BIM)
การตีขอบเขตแนวที่ดิน การกำหนดแนวร่นจากที่ดิน
การสร้าง Mass อาคาร
การหาพื้นที่ใช้งานของอาคาร
การจำลองผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ
การออกแบบพื้นที่รอบอาคาร (Site topology & site design)
|
2 |
การใช้ BIM ในการออกแบบงานสถาปัตยกรรม
การสร้างส่วนอาคารภายนอก
การสร้างส่วนอาคารภายใน
การสร้าง ประตู หน้าต่าง
การสร้าง บันได ทางลาด ราวกันตก
การสร้างแบบจากโมเดล BIM สามมิติ และ ส่งแบบไปยัง AutoCAD ทั้ง แปลน รูปด้าน รูปตัด แบบขยาย
การคำนวนปริมาณวัสดุจากโมเดล BIM สามมิติ และ ส่งตารางไปยัง Excel
|
3 |
การใช้ BIM ในการออกแบบ และ วิเคราะห์ งานโครงสร้าง
การใส่โครงสร้างซ้อนกับโมเดลสถาปัตยกรรม
การใส่เหล็กเสริมแบบสามมิติ
การใส่แรงกระทำต่ออาคารในรูปแบบต่างๆ
การวิเคราะห์ความแข็งแรงของอาคารแบบสามมิติ
การนำผลวิเคราะห์มาเพิ่มหรือลดโครงสร้างให้เหมาะสม
การคำนวนปริมาณโครงสร้างที่ใช้ในการสร้างอาคาร
|
4 |
การใช้ BIM ในการออกแบบ และ วิเคราะห์ งานระบบอาคาร
การออกแบบงานระบบปรับอากาศ
การออกแบบงานระบบเครื่องกลควบคุมอาคาร
การออกแบบระบบงานสุขาภิบาลในอาคาร
การออกแบบระบบแสงสว่างในอาคาร
การออกแบบระบบงานไฟฟ้าในอาคาร
การคำนวนปริมาณวัสดุอุปกรณ์งานระบบอาคาร
|
5 |
การบริหารควบคุมงานก่อสร้างด้วย BIM
การสร้างตารางเวลางานก่อสร้าง
การเชื่อมข้อมูลตารางเวลากับโมเดลอาคารสามมิติ
การจำลองภาพสามมิติการขึ้นงานอาคารตามตารางเวลาที่กำหนด
การแก้ไขปรับปรุงตารางงาน และลำดับการจำลองความคิบหน้าอาคารไปพร้อมกัน
การตรวจหาจุดที่อาจมีการซ้อนทับกันของชิ้นส่วนอาคาร (Clash Detection)
การเก็บแบบไว้ที่เดียวบน Cloud และ ตรวจแบบผ่านอุปกรณ์โมบายต่างๆ
|